วันจันทร์ที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2551
ภาษาอังกฤษ O - NET : A - NET
Part 1 : Vocabulary ข้อสอบส่วนนี้นักเรียนในระดับชั้น ม.ปลายจะต้องมีความรู้คำศัพท์ในแขนงวิชาต่างๆ และสามารถใช้คำที่มีความหมายใกล้เคียงกันได้อย่างถูกต้อง
Part 2 : Writing Ability ข้อสอบแนวนี้ต้องการวัดทักษะการเขียนของนักเรียน นั่นคือนักเรียนสามารถชี้ได้
ว่าส่วนใดในประโยคใช้ไวยากรณ์ที่ไม่ถูกต้องหรือคำที่มีความหมายผิดเพี้ยนไป
Part 3 : Cloze Test ข้อสอบเติมคำนี้ต้องการวัดความสามารถที่เป็นองค์รวมทั้งการใช้คำศัพท์ การใช้ไวยากรณ์และความสามารถในการเชื่อมโยงและปะติดปะต่อความหมายเข้าด้วยกัน จนสามารถเติมส่วนที่ขาดหายไปได้อย่างถูกต้อง
Part 4 : Reading Comprehension ข้อสอบวัดความสามารถในการอ่าน ซึ่งเป็นทักษะที่สำคัญในการใช้
ศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา นักเรียนจึงควรสะสมความรู้ในแขนงต่างๆ ไว้เพื่อใช้เป็นพื้นฐานในการวิเคราะห์
เนื้อเรื่องแขนงวิชาต่างๆขอให้นักเรียนลองฝึกทำข้อสอบ โดยดูคำเฉลยท้ายบท
PART I : Vocabulary
ข้อแนะนำในการทำข้อสอบวัดความรู้คำศัพท์
1. อ่านข้อความให้จบประโยค เพื่อใช้วิเคราะห์ความหมายของคำที่ขีดเส้นใต้มาให้
2. ใช้ตัวชี้แนะหรือคำสันธานตลอดจนข้อความข้างเคียงในการตีความฉะนั้น คุณครูขอแนะนำให้นักเรียนเตรียมความพร้อมก่อนล่วงหน้าด้วยการ
1. สะสม และหมั่นท่องคำศัพท์ไว้เรื่อยๆ ท่องครั้งละ 5-10 คำ แต่ท่องบ่อยๆ
2. หมั่นทำข้อสอบการอ่าน เพื่อทำให้เราระลึกถึงคำแปลของคำศัพท์ที่เราพบในการอ่าน เพราะบ่อยครั้งที่
เราจำคำศัพท์ได้ แต่พอคำศัพท์เหล่านี้ไปปรากฏในข้อความใหม่ๆ เราจะนึกไม่ออก ฉะนั้นการหมั่นนึกถึงความหมายของคำศัพท์ที่เราพบจะช่วยให้เราพัฒนาความจำช่วงยาวได้ เพราะฉะนั้นอย่าเกียจคร้านในการจดจำคำศัพท์
ท่องน้อยๆ แต่สม่ำเสมอ ดีกว่าท่องแบบยัดเยียดในช่วงเวลาสั้นๆ
3. ทักษะการเดา หรือการตัด Choice ควรเก็บไว้ใช้ในกรณีที่จำเป็นจริงๆ แต่กระบวนการเรียนรู้ที่แท้จริง
คือ การรู้จริงและนำไปประยุกต์ใช้ได้ ซึ่งนักเรียนต้องเอาใจใส่อย่างสม่ำเสมอขอให้นักเรียนลงมือทำข้อสอบต่อไปนี้ นักเรียนควรใช้เวลาประมาณ 20-25 นาที
Directions : In each sentence a word or phrase has been underlined. Thereare four other words or phrases below each sentence. You mustselect the one word or phrase which most closely matches themeaning of the underlined word.
1. In spite of his many faults, Paul is very dedicated to his mother.
1) polite 2) devoted 3) agreeable 4) considerable
2. The columnist’s remarks were inappropriate and rude.
1) unsuitable 2) unnecessary 3) inconsistent 4) inarticulate
3. If one has an open mind, it is not difficult to appreciate another’s point of view.
1) respect 2) agree 3) contradict 4) understand
4. The argument, although understandable, was not very convincing.
1) persuasive 2) realistic 3) reliable 4) clear
5. The judge would not hear the case because the evidence was not sufficient.
1) proper 2) legal 3) adequate 4) positive
6. The gem is so rare it could be fake.
1) expensive 2) stolen 3) simulated 4) sold
7. An inexperienced driver is a potential danger.
1) possible 2) certain 3) actual 4) definite
8. This course focuses primarily on the history of early civilizations.
1) objectively 2) mainly 3) actively 4) subjectively
9. There is no resolution to this conflict.
1) decision 2) condition 3) action 4) disagreement
10. There was a long pause before the music began.
1) interval 2) introduction 3) prayer 4) play
11. Some tall people often feel clumsy.
1) superior 2) ignored 3) noticed 4) awkward
12. All typing errors must be deleted from this memo.
1) erased 2) corrected 3) circled 4) determined
13. The quaint style of the homes is typical of this region.
1) curious 2) ancient 3) elaborate 4) ultramodern
14. Doctors discourage massive doses of drugs for infants.
1) light 2) huge 3) repetitive 4) infrequent
15. History has shown that rulers do not relinquish power easily.
1) abandon 2) hold 3) control 4) gain
16. Modern music is usually characterized by a remarkable dissonance.
1) melody 2) clarity 3) discord 4) volume
17. There are some people who advocate relaxation over work.
1) insist on 2) recommend 3) appreciate 4) deplore
18. The lawyers obliged the newspaper to retract their allegations.
1) withdraw 2) deny 3) apologize for 4) correct
19. It is often difficult to reveal one’s true feelings to others.
1) divulge 2) explain 3) discover 4) recognize
20. The caterers must know approximately how many people are expected.
1) nearly 2) essentially 3) confidentially 4) truthfully
เฉลย
วิธีแปล : companion, friend เพื่อนร่วมทาง, เพื่อน
companion = เพื่อนร่วมทาง
friend = เพื่อน
: dedicated, devoted = ที่อุทิศ/ทุ่มเท
ทั้ง 2 คำแปลว่า ที่อุทิศหรือทุ่มเท
1. เฉลย 2) dedicated = devoted = ที่อุทิศ/ทุ่มเท
1) polite, courteous = ที่สุภาพ
3) agreeable, pleasant = ที่พึงพอใจ
4) considerable, great = มาก
2. เฉลย 1) inappropriate = unsuitable = ที่เหมาะสม
2) unnecessary, inessential = ที่ไม่จำเป็น
3) inconsistent, unstable = ที่ไม่สม่ำเสมอ/ที่ไม่แน่นอน, ผันแปร
4) inarticulate, incoherent = ที่ตะกุกตะกัก/ที่ไม่ปะติดปะต่อ
3. เฉลย 1) appreciate ซาบซึ้ง = respect = เคารพ
2) agree, approve = เห็นด้วย, อนุมัติ/เห็นด้วย
3) contradict, controvert = โต้แย้ง
4) understand, comprehend = เข้าใจ
4. เฉลย 1) convincing ที่น่าเชื่อ = persuasive = ที่น่าเชื่อ/ที่โน้มน้าว
2) realistic, pragmatic = ที่เป็นจริง/ในทางเป็นจริง
3) reliable, trustworthy = ที่น่าไว้วางใจ
4) clear, obvious = ที่ชัดเจน
5. เฉลย 3) sufficient = adequate = ที่เพียงพอ
1) proper, suitable = ที่เหมาะสม
2) legal, lawful = ที่ถูกกฎหมาย
4) positive, constructive = ในทางบวก/ที่สร้างสรรค์
6. เฉลย 3) fake เทียม = simulated = ที่ลอกเลียนแบบ
1) expensive, costly = แพง
2) steal, sneak = ขโมย, จิ๊ก/แอบเอาไป
4) sell, vend = ขาย
7. เฉลย 1) potential ที่มีศักยภาพ = possible = ที่เป็นไปได้
2) certain, sure = ที่มั่นใจ
3) actual, authentic = ที่แท้จริง
4) definite, certain = ที่แน่นอน
8. เฉลย 2) primarily = mainly = ส่วนใหญ่
1) objective, unprejudiced = ที่ปราศจากอคติ
3) active, zealous = ที่กระตือรือร้น
4) subjective, emotional = ที่ใช้ความรู้สึกส่วนตัว/ที่เจ้าอารมณ์
9. เฉลย 4) conflict = disagreement = ความขัดแย้ง
1) decision, judgment = การตัดสินใจ, การตัดสิน
2) condition, state = สภาพ
3) action, function = การกระทำ/หน้าที่
10. เฉลย 1) pause = interval = ช่วงพัก
2) introduction, presentation = การแนะนำ, การนำเสนอ
3) prayer, worship = การสวดมนต์, การบูชา
4) play, show = การแสดง
11. เฉลย 4) clumsy = awkward = ที่งุ่มง่าม
1) superior, excellent = เหนือกว่า, ที่เยี่ยมยอด/ที่เด่น, ดี
2) ignore, neglect = เพิกเฉย/ละเลย
3) notice, observe = สังเกต
12. เฉลย 1) delete = erase = ลบออก
2) correct, rectify = แก้ไข
3) circle, surround = ล้อมรอบ
4) determine, resolve = ตัดสินใจแน่วแน่, ตั้งใจแน่วแน่
13. เฉลย 1) quaint แปลก = curious = อยากรู้อยากเห็น
2) ancient, antique = เก่า, โบราณ
3) elaborate, intricate = ที่ประณีต
4) ultramodern, fashionable = ทันสมัยที่สุด/ทันสมัย
14. เฉลย 2) massive = huge = มาก/ใหญ่
1) light, small = เบา, เล็ก
3) repetitive, recurring = ที่เกิดซ้ำๆ
4) infrequent, occasional = ที่ไม่บ่อย, บางครั้งบางคราว
15. เฉลย 1) relinquish สละ = abandon = ละทิ้ง
2) hold, organize = จัด (การ)
3) control, monitor = ควบคุม
4) gain, attain = ได้รับ
16. เฉลย 3) dissonance = discord = ความไม่ลงรอยกัน/การไม่ประสานกัน
1) melody, song = ทำนองเพลง, เพลง
2) clarity, clearness = ความชัดเจน
4) volume, loudness = ความดังของเสียง
17. เฉลย 2) advocate สนับสนุน = recommend = แนะนำ
1) insist on, persist in = ยืนกราน
3) appreciate, acknowledge = ซาบซึ้ง/ตระหนัก
4) deplore, mourn = โศกเศร้า/คร่ำครวญเสียใจ
18. เฉลย 1) retract = withdraw = ถอนออก
2) deny, decline = ปฏิเสธ
3) apologize, say sorry = ขอโทษ
4) correct, edit = แก้ไข, แก้ไขเรียบเรียง
19. เฉลย 1) reveal = divulge = เปิดเผย
2) explain, clarify = อธิบาย, ทำให้กระจ่าง
3) discover, come upon = (ค้น) พบ
4) recognize, realize = ตระหนัก
20. เฉลย 1) approximately = nearly = ประมาณ
2) essentially, necessarily = ที่จำเป็น
3) confidentially, secretly = อย่างลับๆ
4) truthfully, honestly = อย่างแท้จริง, อย่างซื่อสัตย์
วันพฤหัสบดีที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550
Addition4
We're going to work with everything stacked because this is what you'll always do with bigger numbers.
I'm also going to have you do something really weird... I'm going to have you work backwards!
I'm going to have you add the ones first... then the tens. You'll have to do it this way when the numbers get harder.
Let's jump in!
Add down the stripes... Do the ones first, then the tens:
Addition3
First, we need to work on place values:
If we expand this out, we get
Let's write this another way... Up and down...We can add these by making stripes and adding straight down!
Addtion2
First, you need to get a yardstick. (If you don't have one, most hardware stores will give you one for free.)
Next, you need to get a game piece or a rock -- just something you can use to mark your place on the yardstick.
Check it out:
MATH FOR KIDS addition1
Let's look at two sets:
set A
Count how many triangles are in Set A... There are 2!
sat B
Count how manytriangles are in Set B...There are 3!
Now, put the sets together into one big set:
Count how many triangles are in this set...There are 5!
ภาษาอังกฤษ
Noun (คำนาม),Pronoun (คำสรรพนาม),Verb (คำกริยา), Adverb (คำกริยาวิเศษณ์),Adjective (คำคุณศัพท์)Preposition (คำบุพบท) ,Conjunction (คำสันธาน) ,Interjection (คำอุทาน)
คน: man father lady สัตว์: dog cat bird สิ่งของ: city table month
ชื่อคน: John Mary ชื่อสัตว์: Lassie Lucifer ชื่อสิ่งของ: Bangkok January
- การกระทำ Birds fly. นกบิน
- ความเป็นอยู่ Danny is a boy. แดนนี่เป็นเด็กผู้ชาย
- สภาวะความเป็นอยู่ He looks good. เขาแลดูดี
4. Adjectives ( คุณศัพท์ ) เป็นคำที่อธิบายหรือขยาย noun หรือ pronoun ให้ไดัรายละเอียดเกี่ยวกับคุณสมบัติของสิ่งนั้นๆ เพิ่มขึ้น เช่น new, ugly, ill, happy, afraid, careless.
He bought a new car. เขาซื้อรถใหม่.( new ขยาย car ซึ่งเป็น noun )
They are ugly. พวกเขาน่าเกลียด ( ugly ขยาย they ซึ่งเป็น pronoun )
5. Adverb ( วิเศษณ์ หรือ กริยาวิเศษณ์) เป็นคำที่อธิบายหรือขยาย verb หรือ adjective หรือ adverb ด้วยกันเอง เช่น hard, fast, very
He works hard. เขาเป็นคนทำงานหนัก (hard ขยาย works ซึ่งเป็น verb )
He is very rich. เขาเป็นคนจนมาก ( very ขยาย rich ซึ่งเป็น adjective )
6. Preposition (คำบุพบท ) เป็นคำ หรือกลุ่มคำที่วางหน้า noun หรือ pronoun เพื่อแสดงว่าคำนามหรือสรรพนามนั้นเกี่ยวข้องกับคำอื่นๆในประโยคอย่างไรเช่น on, at, in, from, within
I will see you on Monday. ฉันจะพบกับคุณในวันจันทร์
She was waiting at the restaurant. เธอรออยู่ที่ร้านอาหารThere is a cockroach in my room. มีแมลงสาบตัวหนึ่งในห้องฉัน
We must finish the project within a year. ราจะต้องทำโครงการนี้ให้เสร็จใน 1 ปี
7. Conjunction ( คำสันธาน ) เป็นคำที่ใช้เชื่อม คำ กลุ่มคำ หรือประโยคเข้าด้วยกันเพื่อให้ความหมายสมบูรณ์ขึ้น เช่น and, but, therefore, beside, either..or
John is rich and handsome .จอห์นเป็นคนรวยและรูปหล่อEither you or she has to do this job. ไม่คุณก็เธอที่จะต้องทำงานนี้
8. Interjection ( คำอุทาน ) เป็นคำอุทานที่แสดงถึงอารมณ์ ความรู้สึกที่เกิดขึ้นในขณะนั้น โดยไม่เกี่ยวข้องกับคำอื่นๆ ใน ประโยคเลย เช่น Oh God! , WOW, Hurrah